ถ้าคุณไม่มีเงินพอที่จะไปพบแพทย์ได้ให้ไปที่ "ท่าอากาศยาน" เพราะที่นั่น ...
คุณจะได้รับการเอ็กซเรย์ฟรี
ได้ตรวจเต้านมฟรี
และยิ่งถ้าคุณอ้างถึง "อัลเคด้า"
คุณจะได้รับการตรวจลำไส้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ฟรีอีกด้วย ...
Tuesday, July 31, 2012
Monday, July 30, 2012
ช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคหัวใจ ด้วยการ ... ขยายบอลลูน
ส่วนใหญ่ ... ไม่แสดงอาการล่วงหน้า รู้ตัวอีกทีก็มีสิทธิ์ตีบสนิทแล้ว ต้องยกประโยชน์ให้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้สามารถรักษาหลอดเลือดตีบได้โดยไม่ต้องผ่าตัดบายพาสเหมือนในอดีต อีกทั้ง ... ยังรักษาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเหมือนแต่ก่อน
Sunday, July 29, 2012
เขาซักผ้ากันอย่างไร ... ในยุคไร้ผงซักฟอก ?
ชาวโรมันผู้ดีทั้งสตรีและบุรุษในยุคต้นคริสต์ศตวรรษ แม้จะมีเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงามเดินกรุยกราย แต่เรื่องกลิ่นกายนี่หายห่วง ... ฉุนมาก ... มีสภาพเหมือนเดินอยู่ในกองผ้าเปื้อนฉี่! ไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็ล้วนแต่มีชายหญิงที่มีกายอบอวลไปด้วยกลิ่นกายฉุนที่ว่านี้ เพราะเสื้อผ้าของชาวพาราโรมันเหล่านี้ล้วนส่งมาจาก "ร้านซักอบรีดพิเศษที่ทำโดยพวกทาส" คนที่จะมีอภิสิทธิ์เดินสวยด้วยเสื้อผ้ากลิ่นเฉพาะนี้ก็คือเหล่าผู้ดีและทหารโรมันเท่านั้น ... คนสามัญไม่มีสิทธิ์แหยม
เพราะการซักอบรีดที่ว่าต้องทำด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ใช้น้ำยาแช่ผ้าที่ต้องใช้เวลาผลิตและเปลืองแรงงานมากเพราะเป็นสารเคมีที่ทำให้ผ้าขาวได้ด้วย เรียกว่า "แอมโมเนีย" หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "น้ำปัสสาวะหมัก" นั่นเอง
สมัยก่อนมีไม้แสมเยอะ ดังที่นักเลงชอบฉวยเอาดุ้นแสมมาตีกัน พอใช้ไม้แสมทำถ่านแล้วเหลือขี้เถ้าเอามาเทแช่น้ำไว้แล้วค่อยเอาน้ำขี้เถ้านี้แช่ผ้าอีกทีหนึ่ง จากนั้นเอามา "ซ้อม" โดยการทุบให้น่วมจะได้รวมความสกปรกให้ตกออกไป ครั้นพอล้างน้ำตากแดดดีแล้วก็เอามาอบร่ำให้กรุ่นกลิ่นกำจาย นั่งที่ไหนก็ "หอมติดกระดาน" แบบชาววังได้ ไม่ใช่กลิ่นตุๆ เหมือนชาวโรมัน
เพราะการซักอบรีดที่ว่าต้องทำด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ใช้น้ำยาแช่ผ้าที่ต้องใช้เวลาผลิตและเปลืองแรงงานมากเพราะเป็นสารเคมีที่ทำให้ผ้าขาวได้ด้วย เรียกว่า "แอมโมเนีย" หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "น้ำปัสสาวะหมัก" นั่นเอง
คนโรมันทั้งหลายใช้ "ฉี่" เป็นน้ำยาซักผ้า สำหรับให้ผ้าสะอาดและฟอกให้ขาววิธีทำคือ รองเอาปัสสาวะตามบ้านมาแล้วผ่านกรรมวิธี "หมัก" ไว้ให้กลายสภาพเป็น "แอมโมเนีย" ที่มีกลุ่นฉุนเฉียวคล้ายปัสสาวะอูฐ ก่อนจะนำมาใช้แช่ผ้ามีราคาทั้งหลายของชาวโรมัน ทั้งทูนิก โทกา ล้วนต้องผ่านน้ำฉี่หมักมาแล้วทั้งนั้น เรื่องกลิ่นไม่สำคัญ ขอให้ผ้านุ่ม ผ้าขาวเป็นพอ เป็นเสมือนน้ำยาปรับผ้านุ่ม ฟอกผ้าขาวในสมัยนี้นั่นเอง
นี่คือ ซินไฉฮั้ว ยุคโรมันนึกย้อนไปในสมัยนั้นแล้วก็ให้ได้เห็นมิติของการซักผ้าและอนามัยส่วนบุคคลที่นิยมกันและอยู่ต่อมาอีกนานนับเป็นพันปีที่ปัสสาวะเป็นผงซักฟอกสูตรปรัมปราของการซักผ้า เพราะว่าสบู่เพิ่งมีขึ้นเมื่อราว 200 ปีก่อนนี้เอง และไม่ใคร่ใช้กันแพร่หลายนัก แม้ตามโบสถ์วัดฝรั่งในยุโรปก็ยังตั้งโรงซักผ้าที่ใช้น้ำแอมโมเนียปัสสาวะหมักนี้อยู่
ดังนั้นที่บอกว่าชาติฝรั่งก็ใช่จะสะอาดเสมอไป คนไทยเราแต่ก่อนรู้วิธีซักผ้าแบบไม่น่าแหวะมากและไม่ทิ้งกลิ่นพิลึกไว้ให้ติดผ้าเหมือนอย่างฝรั่งมานานแล้ว เพราะสบู่เพิ่งเข้ามาในบ้านเราเมื่อราวๆ 100 ปีหลังเกิดสงครามโลกนี่เอง มีดีหน่อยก็คือ "สบู่กรด" ที่กัดแรงหมดจดจนอันตราย สบู่ฝรั่งชั้นดีที่ขายครั้งกระโน้นจึงมีใช้กันในหมู่เจ้านายและขุนนางเท่านั้น ถ้าเป็นผ้าผ่อนชาวบ้านทั่วไปที่ซักกันก็ต้องนี่เลยค่ะ "น้ำขี้เถ้าถ่านแสม" หรือ "น้ำด่าง" เป็นกระแสรากหญ้ายอดฮิตเพราะมีฤทธิ์เป็นด่างช่วยชะล้างคราบไคลบนใยผ้าได้เป็นอย่างดี
สมัยก่อนมีไม้แสมเยอะ ดังที่นักเลงชอบฉวยเอาดุ้นแสมมาตีกัน พอใช้ไม้แสมทำถ่านแล้วเหลือขี้เถ้าเอามาเทแช่น้ำไว้แล้วค่อยเอาน้ำขี้เถ้านี้แช่ผ้าอีกทีหนึ่ง จากนั้นเอามา "ซ้อม" โดยการทุบให้น่วมจะได้รวมความสกปรกให้ตกออกไป ครั้นพอล้างน้ำตากแดดดีแล้วก็เอามาอบร่ำให้กรุ่นกลิ่นกำจาย นั่งที่ไหนก็ "หอมติดกระดาน" แบบชาววังได้ ไม่ใช่กลิ่นตุๆ เหมือนชาวโรมัน
Saturday, July 28, 2012
ซักผ้ารวมกัน ... อันตราย เจอเต็มๆ ...
คนไทยยุคใหม่สมัยนี้เหมือนจะมีโลกส่วนตัวสูงไม่ชอบยุ่งกับใคร ทำงานกลับมาบ้านก็ขออยู่ส่วนตัว ยิ่งคนโสดอยู่คนเดียวหรือแค่สองที่ต้องอาศัยอยู่คอนโดฯหรืออพาร์ทเม้นท์เพื่อให้สะดวกขึ้น ไม่ต้องดูแลบ้านมาก กลับมาก็นอนได้เลย เพราะมีสิ่งบริการอยู่รอบตัวแสนสะดวก บวกกับจะกินอยู่หรือออกกำลังกายก็มีสบายอยู่ในตึกเดียว ไปเที่ยวไหนต่อไหนมาทั้งวันกลับกันมาถึงก็แค่นอน ตอนจะซักผ้าก็มีบริการซักให้หรือจะใช้เครื่องซักผ้ารวมก็ไม่ยากนัก แค่จับใส่เข้าไปใช้เวลานั่งรอประเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ แต่การซักผ้าแบบรวมอยู่นี้เอง รู้หรือไม่ว่ามันมีเชื้อโรคร้ายรออยู่มากมาย เช่น
- เชื้อกามโรค อย่างเบาะๆเช่น "ซิฟิลิส" ถ้าเข้าตาก็ทำให้ตาบอดได้ หรืออย่าง "เชื้อหนองใน" ถ้าเข้าคอไปก็ทำให้เป็นหนองอักเสบคล้ายโรคทอนซิลกลัดหนอง แต่ต้องรักษาโดยใช้ยาฆ่าเชื้อแบบกามโรคถึงจะหาย
- เชื้อรา ติดตามใยผ้าได้โดยเฉพาะผ้าที่ใช้เครื่องอบแห้ง ไม่ได้ตากแดด จึงไม่อาจทำลายสปอร์เชื้อราและเชื้ออีกหลายชนิดได้ เมื่อเอามาใส่ก็อาจทำให้เกิดโรคได้ เพราะส่วนใหญ่เชื้อราชอบความอับชื้นมาก
- เชื้อตกขาว สตรีที่มีโรคภายใน เชื้อตกขาวจะออกเพ่นพ่านยามซักผ้า ถ้าซักชั้นในควรแยกกับผ้าอื่น และยิ่งไม่ควรซักรวมกับคนอื่น เพราะเชื้อเหล่านี้มองไม่เห็นและแม้เจ้าตัวเองบางทีก็ยังไม่ทราบเลยว่ากำลังป่วยอยู่
- เชื้อโรคผิวหนัง ผ้าที่เป็นของส่วนตัวมากอย่างผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวนี่ยิ่งน่ากลัวที่สุด เพราะสัมผัสกับทั้งเซลล์หนังกำพร้าที่หลุดลอก (ขี้ไคล), น้ำตา, น้ำมูก, น้ำลาย, และสารคัดหลั่งที่อุดมไปด้วยเชื้อหนอง, เชื้อรา, กลาก, เกลื้อน, โรคตาแดง ฯลฯ
Friday, July 27, 2012
ขำขันประจำวัน @ 20120727
หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เมย์, พลอย, และอั้ม ก็ไม่ได้ติดต่อหรือเจอกันอีกเลย ต่อมาได้ข่าวคราวกันใหม่ทาง เฟซบุ้ก (Facebook) จึงติดต่อนัดหมายเจอกันที่บาร์แห่งหนึ่ง
"เมย์" มาถึงเป็นคนแรกในชุดสีเบจของเวอร์ซาเช (Versace) และสั่งไวน์ชั้นดีจากอิตาลี 1 ขวด "พลอย" มาเป็นคนที่ 2 เธอใส่ชุดสีเทาของชาแนล (Chanel) หลังจากทักทายแล้วก็ร่วมดื่มไวน์กัน สักพัก "อั้ม" ก็โผล่เข้ามาเป็นคนสุดท้าย เธอสวมเสื้อยืดสีซีดๆ ใส่กางเกงยีนและรองเท้าบู๊ท ไม่มีแบรนด์
พอทักทายและจิบไวน์กันเรียบร้อยแล้ว "เมย์" ก็เล่าให้เพื่อนๆฟังว่า หลังเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้วเธอไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก จบสาขาวรรณคดี แต่งงานกับ "มาร์ค" ทนายความของสำนักกฎหมายแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ตอนนี้ซื้อบ้านอยู่ที่นิวยอร์ก และมีบ้านอีกหลังหนึ่งที่เมืองไทย เพื่อไว้พักผ่อนตอนที่มาเที่ยว
Thursday, July 26, 2012
Silvio Berlusconi's women - the top 10
ต่อเนื่องจากโพสท์ที่แล้วที่เกี่ยวข้องกับ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่
วันนี้เรานำมาฝากกันต่อแต่อันนี้เป็นข้อมูลและรูปภาพจากเวบ Telegraph ค่ะ
ไม่น่าเชื่อนะคะ แต่ละคนสวยๆทั้งนั้น ไม่น่าทำตัวแบบนี้เลย
1. Veronica Lario, 52, Berlusconi’s long suffering wife of 20 years and mother of his three children. They started an affair while he was still married to first wife and he saw her topless on stage
2. Noemi Letitzia, 18, schoolgirl who calls Berlusconi ’Papi’ and who has been the subject of media spotlight after it emerged he had visited her coming of age party and gave her a 6000 euro gold and diamond necklace
วันนี้เรานำมาฝากกันต่อแต่อันนี้เป็นข้อมูลและรูปภาพจากเวบ Telegraph ค่ะ
ไม่น่าเชื่อนะคะ แต่ละคนสวยๆทั้งนั้น ไม่น่าทำตัวแบบนี้เลย
1. Veronica Lario, 52, Berlusconi’s long suffering wife of 20 years and mother of his three children. They started an affair while he was still married to first wife and he saw her topless on stage
2. Noemi Letitzia, 18, schoolgirl who calls Berlusconi ’Papi’ and who has been the subject of media spotlight after it emerged he had visited her coming of age party and gave her a 6000 euro gold and diamond necklace
Wednesday, July 25, 2012
ยลโฉมสาวๆ ในสังกัดซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี...ต่อให้นักบุญก็ยากจะห้ามใจไหว !!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจ้าของสโมสรเอซี มิลาน ตกเป็นข่าวพันพันกับเรื่องรักๆใคร่ๆมากกว่าประเด็นทางการเมืองเสียอีก และทางสำนักข่าวบีบีซีนิวส์ของอังกฤษ จึงรวบรวมแคตาลอกสาวๆของแบร์ลุสโคนี เพื่อเป็นการยืนยันว่านายกรัฐมนตรีอิตาลีรายนี้สมควรได้รับฉายา "เพลย์บอย" มากแค่ไหน และภาพต่อไปนี้สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าทำไม แบร์ลุสโคนี ถึงกล้าๆบอกกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมไม่ใช่นักบุญ'
ซึ่งแปลว่าพลอยทับทิมจอมขโมยหัวใจ น่าจะเป็นผู้หญิงที่มีความสำคัญต่อชีวิตของแบร์ลุสโคนี มากที่สุดในตอนนี้ โดยแดนเซอร์สาวประจำไนต์คลับรายนี้คือศูนย์กลางแห่งข้อกล่าวหาต่างๆที่มีต่อตัวเขา ทั้งจ่ายเงินซื้อบริการขณะที่เธอยังเป็นเยาวชนและใช้อำนาจโดยมิชอบบีบให้ตำรวจปล่อยตัวเธอ
Tuesday, July 24, 2012
เทปสนทนาหลุดแฉ "แบร์ลุสโคนี" คุยโวมีเซ็กส์คืนเดียว 8 คน
หนังสือพิมพ์อิตาลีตีพิมพ์เทปสนทนาทางโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ที่เจ้าตัวโม้แหลกอ้างว่า มีผู้หญิงยืนนอกห้องต่อคิวมีเซ็กส์กับเขา 11 คน แต่สนองได้แค่ 8 คน เพราะ "นอนด้วยทั้งหมดไม่ไหว"
บทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ถูกถอดเทปออกมาเป็นบทสนทนาระหว่างแบร์ลุสโคนี กับ นายจิอันเปาโล ตารันตินี ซึ่งอัยการคาดว่าเขาเป็นผู้จัดหาโสเภณีให้แก่คนชั้นสูง
บทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ถูกถอดเทปออกมาเป็นบทสนทนาระหว่างแบร์ลุสโคนี กับ นายจิอันเปาโล ตารันตินี ซึ่งอัยการคาดว่าเขาเป็นผู้จัดหาโสเภณีให้แก่คนชั้นสูง
Monday, July 23, 2012
เงินพลาสติก หายนะ ... ที่รอเวลา
ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์หาอาหารและสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิตเท่านั้น ไม่ซื้อไม่ขาย ต่อมาหากอยากได้สิ่งใดเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อความอยากหรือความจำเป็นก็ใช้วิธี "แลกเปลี่ยนกัน" เช่น พริกแลกเกลือ เนื้อสัตว์แลกเครื่องนุ่งห่ม แต่ความปรารถนาของมนุษย์เพื่อชีวิตที่ดีกว่ามีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการเริ่มใช้วัตถุบางสิ่งเป็นตัวกลางในการกำหนดมูลค่าของสิ่งที่จะใช้แลกเปลี่ยนหรือซื้อ-ขายกันนั่นเอง เช่น หอยเบี้ย หินสี เพื่อสร้างความยุติธรรม เพราะของแต่ละสิ่งย่อมมีค่าไม่เท่ากัน
ต่อมาสิ่งของที่นำมาใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายเริ่มมีวิวัฒนาการเป็น "เงิน" ที่ทำมาจากวัตถุที่คงทนถาวร มนุษย์จึงเลิกใช้การแลกสิ่งของมาเป็นการใช้เงินซื้อสิ่งของตามที่ต้องการ เช่น เงินพดด้วง (เงินโบราณ) หรือเหรียญเงินโบราณ เหรียญทองคำ อัญมณี
เมื่อมนุษย์สมัยใหม่ ก้าวหน้าจนเรียนรู้ที่จะค้าขายเพื่อทำกำไร จึงต้องมีกลไกหรือตัวกลางเชื่อมโยงให้ความสะดวกแก่ผู้ค้าขาย "ธนาคาร" จึงเกิดขึ้นเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินตอบสนองต่อความต้องการของพ่อค้าในยุคที่มนุษย์กำลังก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ (มหภาค) คือ การค้าขายที่เชื่อมโยงกันไปทั่วโลก ทุกตำรา ทุกสถานศึกษากล่าวไว้ว่า
"ธนาคาร" คือ สถาบันหรือหน่วยงานที่ช่วยเหลือให้ความสะดวกหรือเป็นที่ปรึกษาทางด้านธุรกรรมการเงินให้ผู้ประกอบการจนประสบความสำเร็๗ในธุรกิจนั้นๆ เป็นกลไกสำคัญในการค้าขาย เศรษฐกิจของทุกประเทศและของโลกจึงขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของธนาคาร
Sunday, July 22, 2012
พ่ออายุมากที่สุดในโลก อายุ 94 ปี มี Sex วันละ 3 ครั้ง แถมยังมีลูกอ่อน
รามจิต รากาฟ (Ramjeet Raghav) ชาวนาอินเดียถูกขอร้องให้ระงัับการมีเพศสัมพันธ์คืนละ 3 ครั้งเป็นการชั่วคราว หลังจากที่เขาได้กลายเป็น
"พ่อคน" ที่อายุมากที่สุดของโลกในวัย 94
Saturday, July 21, 2012
จำนวนประชากรโลก (World Population) ตัวเลขน่ารู้
- อีก 14 ปีข้างหน้า คือในปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) คาดว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 ล้านคน
- และในปี พ.ศ. 2586 (ค.ศ. 2043) จำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นอีกจนถึงประมาณ 9,000 ล้านคน
Friday, July 20, 2012
แฟชั่นอาหรับสมัยใหม่ อาบายายุคใหม่
ต่อเนื่องจากโพสต์ที่แล้วเกี่ยวกับ แฟชั่นอาหรับสมัยใหม่ วันนี้ เราเลยเอารูปสวยๆ มากฝากกันแบบจุใจเลยทีเดียวค่ะ
Subscribe to:
Posts (Atom)