Like Our Post? Please Share!

Monday, July 9, 2012

ขำขันประจำวัน @ 20120709

ผู้ชายคนหนึ่งตกงาน ลูกเมียต้องอดอยาก หิวโหยเพราะไม่มีอะไรจะกิน เขาจึงไปสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระเจ้า แต่อ้อนวอนเท่าไรก็ยังหางานทำไม่ได้เสียที

เขาคิดว่าพระเจ้าคงอยู่ไกลมาก และไม่ได้ยินเสียงสวดมนต์อ้อนวอนภาวนาของเขา คิดไปคิดมาจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปใกล้พระเจ้าให้มากกว่าเดิม

เขาจึงเข้าไปในวิหารฮินดูแห่งหนึ่ง ถอดเสื้อปูลงกับพื้นนอกวิหารแห่งนั้นแล้วนั่งสวดมนต์ภาวนาต่อพระเจ้า บางคนที่เดินผ่านไปผ่านมานึกว่าเขาเป็นขอทาน จึงโยนเศษเหรียญให้ แต่เมื่อนำมารวมๆกันแล้วก็มีค่าน้อยนิดมาก ไม่พอยาไส้ตัวของเขาเองและครอบครัว

เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล เขาจึงไปที่มัสยิด และไปในโบสถ์ยิว โบสถ์คริสต์ด้วย แต่สุดท้ายผลที่ออกมาก็คล้ายคลึงกัน ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร เขารู้สึกอับจนหนทางยิ่งนัก คิดไม่ตกว่าต้องทำอย่างไร

ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เขาหยุดพักอยู่ตรงหน้าผับบาร์แห่งหนึ่ง มีขี้เมา 2-3 คนกำลังเดินออกมาอย่างอารมณ์ดี หนึ่งในนั้นเมื่อเห็นหน้าเขา ก็ควักเงินให้เขา 1,000 บาท

ชายตกยากคนนั้นเงยหน้าขึ้นสู่สวรรค์แล้วพึมพำว่า
พระเจ้า พระองค์ทรงมีอารมณ์ขันเหลือเกินนะ
ดูผลของการไปวัด ไปโบสถ์ กับ การไปผับไปบาร์สิ ไม่เห็นเหมือนที่ท่านสอนไว้เลย
...

Sunday, July 8, 2012

10 คำถามกับ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ในบทบาทของ เจ.เอ็ดการ์ (ฮูเว่อร์) เจ้าพ่อ FBI

10 คำถามกับ "ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ" จาก "แจ๊ก ดอว์สัน" ใน "ไททานิค" มาสวมบทบาทเป็น "เจ.เอ็ดการ์ (ฮูเว่อร์)" เจ้าพ่อ FBI


จากพระเอกหนังขวัญใจวัยรุ่น และด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา ทำให้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ มีโอกาสได้รับบทดีๆ มีสาระตามมามากมาย เช่น ไททานิค และตอนนี้ลีโอนาร์โด ได้กลายเป็นนักแสดงประเภทดราม่าไปแล้ว บทชีวิตหนักล่าสุดในหนังเรื่องใหม่ของเขาคือ ภาพยนตร์จากชีวิตของ "เจ.เอ็ดการ์ ฮูเว่อร์" ผู้บัญชาการคนแรกขององค์กรสืบสวนพิเศษ FBI (Federal Bureau of Investigation)

Saturday, July 7, 2012

ขำขันประจำวัน @ 20120707

สามีภรรยาก็เหมือน "ตับ" และ "ไต"

สามี คือ "ตับ

ภรรยา คือ "ไต"

ถ้า "ตับ" เสีย ... "ไต"จะวายตามไปด้วย

แต่ถ้า "ไต" เสีย ... "ตับ" จะไม่เป็นอะไร

"ตับ" สามารถทำงานร่วมกับ "ไต" อื่นได้

ที่โรงพยาบาลหลายแห่งจึงมีบริการเปลี่ยน "ไต"

แต่ยังไม่มีโรงพยาบาลไหนมีบริการเปลี่ยน "ภรรยา"

เพราะคิดแล้วว่าถ้ามี ... สามีไม่น่าจะอยู่รอดได้นาน ...

Friday, July 6, 2012

5 เทคนิคง่ายๆให้เก็บอาหารไว้ได้นานๆ โดยไม่บูด

เทคนิคง่ายๆ 5 ข้อที่จะนำเสนอในวันนี้นะคะ เป็นวิธีทำให้เก็บอาหารได้นานๆ โดยไม่บูดเน่าเสียก่อนที่จะรับประทานกัน หลักใหญ่ๆอยู่ที่การเลือกวัตถุดิบในการนำมาปรุงอาหารนั่นเอง
  1. เลือกวัตถุดิบที่ชื้นน้อยที่สุด อาจเป็นของแห้ง หรือนำมาทำให้แห้งทีหลังก็ได้
  2. ขณะปรุงขอให้ใช้น้ำมันน้อยที่สุด เพราะน้ำมันเป็นตัวเรียกความหืน ความบูดเข้ามา เช่น ข้าวผัดก็ให้ผัดด้วยน้ำมันน้อยๆ พอเสร็จแล้วให้ปิดผนึกให้มิดชิดอย่างดี อย่าให้สัมผัสกับอากาศซึ่งเป็นสาเหตุของการเน่าเสียได้
  3. เลี่ยงเครื่องปรุงที่เป็นไขมันมาก เช่น เนย กะทิ นม มายองเนส และไข่แดง เพราะเป็นของที่ถูกจริตกับเชื้อโรคท้องเสีย ซึ่งจะมาเจริญเติบโตได้ดีโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้อาหารที่ส่วนประกอบดังที่กล่าวข้างต้นเก็บไว้ไม่ค่อยได้นานนัก

Thursday, July 5, 2012

ขำขันประจำวัน @ 20120705

สามีคนหนึ่งป่วยหนักมาก หมอบอกกับภรรยาของผู้ป่วยว่า

"คุณต้องจัดอาหารสุขภาพเป็นอาหารเช้าให้เขาทุกวัน คุณจะต้องยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาดีๆ พูดจาเพราะๆ กับเขา ห้ามชวนทะเลาะให้สะเทือนใจโดยเด็ดขาด ห้ามนำปัญหาหยุมหยิมของคุณไปรบกวนเขาโดยใช่เหตุ ห้ามคุณพูดเรื่องเงินๆทองๆ หรือซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยราคาแพงๆ โดยเฉพาะพวกเครื่องประดับและเครื่องสำอางค์ คุณต้องไม่ให้เขาดู TV และคุณจะต้องนวดตัวและฝ่าเท้าให้สามีคุณก่อนนอนทุกคืน"

เมื่อกลับถึงบ้าน

สามี : หมอบอกอะไรกับคุณบ้าง
ภรรยา : หมอบอกว่าโอกาสที่คุณจะรอดหายขาดคงจะยาก ...

Wednesday, July 4, 2012

กระดูกพรุนในผู้สูงวัย พลาดนิดเดียวสะโพกหักไม่รู้ตัว

โรคกระดูกพรุน หรือ โรคกระดูกโปร่งบาง คือ ภาวะที่เนื้อกระดูกลดลงและมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในของกระดูก ส่งผลให้กระดูกบางลง มีโอกาสหักได้ง่ายขึ้น ซึ่งกรณีของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่เข้ารับการรักษาจากแพทย์จะมีอาการเจ็บบริเวณสะโพก หลังหรือไหล่ เมื่อผลการตรวจวินิจฉัยออกมาจะพบว่ามีกระดูกหักซึ่งสาเหตุก็มาจากภาวะกระดูกพรุนในผู้สูงอายุนั่นเอง

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

โดยทั่วไปกระดูกพรุนจะไม่มีอาการ และผู้ป่วยมักไม่ทราบว่าตัวเองกระดูกพรุนจนกว่าจะหกล้มแล้วเจ็บไม่หาย ญาติจึงพาไปพบแพทย์ และหลังจากส่งเอกซเรย์จะพบทั้งกระดูกหักกับร่องรอยของกระดูกพรุนที่มีอยู่ก่อนแล้ว นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมแค่ล้มนิดๆหน่อยๆ จึงทำให้กระดูกหัก

7 เชื้อร้ายที่มาเวลาลองเสื้อ

เช่าเสื้อผ้า หาเสื้อใส่ ไปเลือกชุด ต้องหยุดคิด
เวลาไปเดินห้าง หรือไปตามร้านเช่าเสื้อผ้าก็ขอให้คำนึงถึงเรื่องความสะอาดให้ดีๆนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจได้แฟชั่น "เกาแหลก" แทนที่ "เกาหลี" ก็เป็นได้ ซึ่งเชื้อโรค และสัตว์ร้ายที่เราต้องระวังให้ดีนั้นได้แก่
  1. เชื้อตาแดงอักเสบ
  2. เชื้อรา กลากเกลื้อน
  3. หิด
  4. เหา
  5. โลน
  6. เชื้อไข้หวัด
  7. ชันนะตุและรังแค

Tuesday, July 3, 2012

วิธีบริหารอารมณ์ในที่ทำงาน

ความเครียดในการทำงานเกิดได้ทั้งจากการเก็บกดอารมณ์ที่ไม่ดีเอาไว้และเกิดจากการระบายอารมณ์อย่างไม่เหมาะสมด้วย ดังนั้นการรู้จักแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องจำเป็น นอกจากจะช่วยลดความเครียดลงแล้ว ยังช่วยให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานดีขึ้นอีกด้วย

โดยก่อนอื่นเราควรเรียนรู้ที่จะเข้าใจและรู้ทันอารมณ์ของตนเองเสียก่อนว่า ตอนนี้เราอารมณ์อยู่ในระดับไหน ดีหรือไม่ดี ซึ่งสามารถฝึกได้ แม้จะยากสักหน่อยแต่ฝึกได้ โดยการฝึกสังเกตุอารมณ์ตัวเองดีๆ และยับยั้งชั่งใจ คิดไตร่ตรองก่อนจะทำอะไรลงไปทุกครั้ง เพราะเวลาที่เราอารมณ์ไม่ดีเนี่ย เรามักจะทำอะไรอย่างวู่วามและมักจะต้องมาเสียใจภายหลังเสมอๆ

ถ้าอารมณ์ดี อันนี้ไม่ยาก ทุกคนน่าจะแสดงออกกันได้ดีอยู่แล้ว ยิ้มแย้ม แจ่มใส หัวเราะ ร่าเริง ซึ่งถ้าทุกคนมีอารมณ์ดีแบบนี้ทั้งหมดก็น่าจะดีไม่ใช่น้อยต่อบรรยากาศในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำจริงๆก็คือ พยายามรักษาระดับของอารมณ์ดีนี้เอาไว้ให้ได้นานๆ

Monday, July 2, 2012

กินไข่วันละฟอง ไม่เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ แถมยังช่วยสร้างฮอร์โมนเพศ


ไข่กับความรู้ใหม่ เพื่อสุุขภาพ
ไข่กับความรู้ใหม่
คนไทยกินไข่น้อยหน้าใครหรือเปล่า ?
จากข้อมูลสถิติของกรมปศุสัตว์พบว่า คนไทยบริโภคไข่น้อยมาก โดยมีสถิติบริโภคไข่ปีละ 165 ฟองต่อคนเฉลี่ยแล้ว
วันหนึ่งกินไข่ไม่ถึงครึ่งฟอง!
กินกันน้อยมากๆ ค่ะเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
อย่างชาวจีนบริโภคไข่กันถึง 40% ของจำนวนการผลิตในตลาดโลก และมีชาติอินเดียตามมาติดๆในปี 2553
อย่างชาวญี่ปุ่นมีการบริโภคไข่ไก่ถึงราวปีละ 323 ฟองต่อคน เทียบกับคนไทยแล้วคิดเป็น ... 2 เท่าเอาเลยทีเดียว
แล้วทำไมคนไทยถึงไม่กินไข่กัน อาจเป็นไปได้ว่า ที่ผ่านมายังมีความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับการกินไข่ ถ้าอย่างนั้น เราคงต้องเปลี่ยนความเชื่่อที่ผิดๆเกี่ยวกับการกินไข่ กันซะก่อน

Sunday, July 1, 2012

TOKYO SKYTREE หอคอยที่สูงที่สุดในโลก

Tokyo Skytree

ในเวลานี้ถ้าจะบอกว่า อะไรที่กำลังฮอตฮิตที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ก็คงจะหนีไม่พ้น Tokyo Skytree เป็นแน่แท้ เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อสร้างวันที่ 14 กรกฎาคม 2551 จนถึงวันเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 พฤษาคม 2555 ที่เพิ่งผ่านมานี้ เจ้า "ต้นไม้ระฟ้าแห่งโตเกียว" เป็นกระแสให้โทรทัศน์และคนญี่ปุ่นได้กล่าวถึงอยู่อย่างต่อเหนื่องไม่ขาดสาย โดยตอนนี้ทาง Guinness World records ได้บันทึกเอาไว้แล้วว่า Tokyo Skytree เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ลบสถิติของ "หอคอยแคนตัน" แห่งเมืองกว่างโจประเทศจีน ด้วยความสูง 634 เมตร โดยค่าก่อสร้างทั้งหมดคิดเป็นเงิน 3 หมื่นล้านบาท หรือ 806 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเจ้าหอคอยนี้จะใช้เป็น หอคอยส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ (Transmission Tower) ในระบบดิจิตอล แทน Tokyo Tower  อันเก่า และยังเป็น จุดชมวิวทิวทัศน์ (Observation Tower) ด้วย
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...